About Me

My photo
I am just someone who loves to cook and bake. This site only another one where I can share my experience and the recipes that I have done.

Sunday, October 2, 2011

Basic Italian macaron shells 2

Basic Italian macaron shells 2






กลับมาอีกรอบสำหรับ italian macarons มาคราวนี้มาแบบ full versions
เอาไว้เป็นไอเดียสำหรับเพื่อนๆน้องๆชาวบล๊อคที่อยากจะลองทำดู

ก่อน อื่นต้องออกตัว (อีกแระ) เอี๊ยดดดดด ก่อนว่าเราไม่ใช่พวก expert
ไม่ได้เก่งอะไรแต่เป็นเพราะมีความตั้งใจที่จะทำ และมีความสังเกตุ ทดลอง
ที่สำคัญทำบ่อยมากกก ทำขายบ้าง ทำแจกบ้างมา
ระยะหลังๆเรื่องทำขาย..ไม่ทำแระเพราะทำนางงาม macarons แต่ล่ะทีเสียเวลามากๆ
เลยขอเปลี่ยนเป็นทำแจกทำให้กินในหมู่เพื่อนบ้าน เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องดีกว่า...

ตอนแรกกะว่าจะไม่รีวิวแล้วล่ะเพราะกลัวเพื่อนๆจะเบื่อกัน
แต่อีกใจนึงอยากช่วยแนะนำเป็นแนวทางให้เพื่อนๆน้องๆอีกหลายคน
ที่อยากทำ macarons ทานเองที่บ้านและทำไม่เคยสำเร็จซะทีได้ลองทำหัดทำกันดู

เจ้า macarons นี่คุณชายที่บ้านเราไม่กินเพราะเค้าว่ามันหวาน
แต่ถ้าเป็นคุ๊กกี้ถึงไหนถึงกันสองวันก่อนน้องสาวคุณชายเราโทรมาออเดอร์สองโหล...
เราก็จัดให้ค่ะสบายมากกเพราะอยากลองสูตรใหม่ของ Pierre Hermé พอดีอิชั้นร้อนวิชา แหะๆๆ



ล๊อตนี้ทำขึ้นเพื่อเพื่อนๆชาวบล๊อคโดยเฉพาะ
Italian macarons กับ lemon curd แถมขอลองสีฟ้ามั่งไม่เคยทำสีฟ้าเลย








ก่อนทำ macarons ศึกษาอ่านรายละเอียดบล๊อคเก่าๆก่อนให้ดีก่อนลงมือทำค่ะ

อัลมอนต์ต้องแห้ง...ถ้าไม่แห้งควรจะทำอย่างไร???
เอาไปอบหรือตากแดดจัดๆให้แห้งสนืทถ้าจะอบก็อบที่ 60-70 องศาเซลเซียส 10 นาที

น้ำตาล ไอซิ่ง...มีผลเหมือนกันค่ะบางทีน้ำตาลก็มีความชื้นทำให้ทำ macarons ไม่สำเร็จถ้าน้ำตาลเกาะตัวกันเป็นก้อนเอาบดรวมกับอัลมอนต์แล้วส่งอบรวมกัน เลย
ไม่ต้องกลัวว่าน้ำตาลจะละลาย..เพราะลองทำมาแล้วยืนยันว่าไม่มีปัญหาอบได้สบายมาก

วันนี้เราทำแบบใช้ hand mixer ทุลักทุเลน่าดูเพราะจะทำสูตรเล็กใช้ stand mixer คงจะตีไม่ถึงก้นโถแน่ๆ




สูตรค่ะ....สูตรเดิมจากบล๊อคเก่าค่ะแต่ลดสูตรเอา

ไข่ขาว(เก่าประมาณ3-5วัน) 70 กรัม แยกเป็นสองส่วนอย่างละ 35 กรัม
น้ำตาลทรายละเอียด 81 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 81 กรัม
อัลมอนต์ 81 กรัม
น้ำเปล่า 19 กรัม
สีตามชอบ

สูตรนี้เราจะทำขนาดเล็กค่ะเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณหนึ่งนิ้วนิดๆทำได้ 26 คู่



มามะมาทำนางงามกัน

น้ำตาลไอซิ่ง..สังเกตุดูจะเป็นก้อนๆซื้อมาหลายวันไม่ได้ใช้มีความชื้นนิดหน่อย







อัลมอนต์มีล...ชื้นเหมือนกันจะเป็นก้อนๆเอามือบีบๆแล้วเกาะกันแสดงว่าชื้น







เอาบดรวมกันเลยค่ะ..เดี๋ยวนี้เราใช้เครื่องปั่นแบบนี้บด
เครื่องนี้คุณชายเราเอาไว้ทำ coffee milk shake ฮิฮิ







เราจะบดแค่ 15 วินาทีพอบางทีเราจะบดถึง 20 วินาทีมากสุดไม่เคยมากกว่านี้
้เครื่องบ้านเราจะมีเวลาบอกด้วย..สะดวกดี







บดเสร็จเอาไปอบ..ปู baking paper รองอบ







เอามือเกลี่ยๆให้เสมอกัน...ส่งเข้าอบเพื่อความชัวร์ว่าไม่มีความชื้นหลงเหลือ
ที่ 60-70 องศาเซลเซียส 10 นาที







อบเสร็จเอาออกมาร่อนด้วยกระชอน







ตั้งทิ้งไว้พอให้คลายความร้อน...แล้วไปเตรียมอย่างอื่นต่อ







เอาน้ำตาลใส่หม้อ ใส่น้ำลงไป เอาเทอร์โมมิเตอร์เสียบไว้แล้วตั้งไฟอ่อนๆ
ขั้นตอนนี้ถ้าอยากจะคนก็คนก่อนที่ตั้งไฟนะคะหรือไม่ก็แค่เขย่า(swirl)หม้อนิดหน่อยก็พอ
ถ้าเอาหม้อตั้งบนไฟแล้วห้ามคนเพราะน้ำตาลหรือไซรับจะตกผลึกหรือเป็นเกล็ดได้







ใครอยากใส่สีก็ใส่ไปตอนนี้เลย (สีน่ากลัวจังวุ้ย)
มีสีน้ำก็ใส่ได้ค่ะสำหรับแบบนี้แต่ไม่ใช่ใส่เยอะแบบพรวดๆน๊า








หันกลับไปดูไข่ขาวที่เราเตรียมไว้สองส่วน







ส่วนนึงเทใส่ในส่วนของอัลมอนต์กับไอซิ่งไม่ต้องคนค่ะทิ้งไว้อย่างนั้น
บางสูตรเค้าจะคนส่วนผสมจนกลายเป็นแป้งเปียกเหนียวๆ
เราลองทำมาทั้งสองแบบเราว่าแบบนี้สะดวกกว่า
เวลาที่คนส่วนผสมจนเปียกๆก่อนพอเอาไปผสมกับเมอร์แรงค์เราว่ามันผสมยากกว่าแบบนี้เยอะ







หันกลับไปดูไซรับค่ะเราต้องการให้ไซรับมีอุณหภูมิที่ 118 องศาเซลเซียส

พอน้ำตาลเริ่มละลายอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นก็ตีไข่ขาวได้เลย
ปกติถ้าใช้ stand mixer เราจะเริ่มตีไข่ขาวที่อุณหภูมิ 110 องศา
แต่วันนี้ใช้ hand mixer ตีช้าไม่ทันใจต้องเริ่มตีตั้งแต่อุณหภูมิ 100 องศา
ถ้า ตีไข่ยังไม่ได้ที่แต่น้ำตาลดัน 118 องศาซะก่อน..พอใกล้ๆจะถึง 118 องศารีบยกหม้อไซรัปจากเตาหรือเอาน้ำเปล่าใส่ลงไปนิดหน่อยจะช่วยทำให้ อุณหภูมิในไซรัปลดลง


ตีไข่ขาวที่สปีดสูงให้ยอดพอเริ่มแข็ง







พอไข่ขาวตั้งยอดแข็ง ไซรัปได้ที่ 118 องศา
เอาหม้อไซรัปเทลงในไข่ขาวได้เลยค่ะแต่เทลงบนขอบๆของโถไข่ขาว..
ไม่เทลงบนไข่ขาว โดยตรงเพราะทำให้ไข่ยุบได้ (ไม่แน่ไข่สุกด้วยนะเออ)

ช่วงนี้อิชั้นทุลักทุเลอย่างแรง 555 เพราะโถอิชั้นกำลังบิน 555
ความจริงห้าผ้ามารองก้นก็จะดีเพราะเวลาตีไข่ไปด้วยเทไซรัปไปด้วยไม่มีมือจับโถ...
โถอิชั้นเลย dance กระจาย 555

ตีสปีดสูงแป๊ปนึงแล้วลดสปีดลงเป็นสปีดกลาง
แล้วตีจนอุณหภูมิลดลงแป๊ปเดียวค่ะจับโถดูพออุ่นๆก็ใช้ได้
ถ้าตีนานจะไปเพิ่มฟองอากาศในเมอร์แรงค์ แล้วจะมี air pockets เกิดขึ้นในตัวขนม






ตีให้ได้ประมาณนี้ค่ะ






พอได้ที่ก็เอาไปผสมกับส่วนของอัลมอนต์







fold ส่วนผสมจนได้ที่...วิธีการ fold ก็เหมือนกับ french ล่ะค่ะ







ส่วนผสมแบบนี้ถือว่ายังไม่ได้ที่ค่ะเพราะหลังจากตั้งทิ้งไว้รอยก็ยังอยู่ไม่หาย







fold ใหม่ซักสองสามครั้ง...ได้ที่แระส่วนผสมแบบอิตาเลียนมันจะหนึดๆนิดนึง







เตรียมใส่ถุงหยอดเลยค่ะ







หยอดใส่ถาดที่รองกระดาษรองอบ
ใครไม่มี silpat ก็ใช้กระดาษรองอบก็ได้เหมือนกันรองกระดาษซักสามชั้นเพื่อป้องกันความร้อนจากด้านล่าง







เสร็จแล้วยกถาดขึ้นเอามือตบๆใต้ถาดไล่ฟองอากาศนิดหน่อย







พักผิวแป๊ปนึง...ตอนนี้ก็ไปอุ่นเตาอบรอค่ะ 150 องศาเซลเซียส
วันนี้เราทำสีอ่อน...เลยขออบแบบใช้ไฟล่างแบบมีพัดลมเพราะไม่อยากให้หน้าหมอง
เราทำขนาดเล็กเราอบแค่ 12 นาทีก็พอ
ถาดแรก...รุ่นทดลอง..ขอลองโรยด้วยเกล็ดน้ำตาลดูค่ะ
ผลออกมา...เย้..ไม่ละลายเวิร์คๆๆ แต่อบด้วยกระดาษและพักผิวไม่นานเท่าไหร่







ถาดที่สอง...จัดไป 12 นาที







ช่วงระหว่างอบ..ประมาณนาทีที่ 5-8 เปิดประตูเตาอบแง้มๆ
เอาไม้ขัดเอาไว้เพื่อไล่ความชื้นในเตาอบแล้วอบต่อจนสุก









ถาดที่ 3 อบนานไปหน่อย...หน้าหม่นเลย ถาดนี้เราอบ 13 นาที
แบบโรยผงโกโก้....สังเกตุให้ดีๆจะมาเฉลยตอนท้าย







ออกจากเตาหลังจากที่อบเพลินไปจี๊ดนึง






นี่คือปัญหาค่ะ
เวลาเราโรยผงโกโก้...ซึ่งผงโกโก้มีไขมัน มีความชื้น
ถ้าโรยไม่ดี...โรยแล้วติดเป็นกระจุกเวลาอบออกมาผิวจะปูดเล็กน้อย







เสร็จแล้วก็แกะออกมาจับคู่เตรียมบีบไส้เลย
พอดีมี lemon curd เหลืออยู่เลยจัดไปไม่ต้องทำไส้ให้เสียเวลา









ประกบคู่เอาเข้าตู้เย็น 24 ชั่วโมงแล้วค่อยเอามาทานค่ะ
ให้ตัว shell มีการดูดซึมไส้เข้าไป (absorbไม่รู้จะพูดว่ายังไง 555 )
หรือว่ากันอีกแบบต้องบ่มให้สุกงอมก่อนถึงจะทานได้
ถ้าทำเสร็จแล้วทานเลย..มันจะกรอบๆไม่อร่อย
ถ้าบ่มได้ที่เวลากัดผิวนอกจะกรุบๆแต่ไม่เหนียวข้างในจะนุ่มจนละลายในปากเลย




จัดไป...ไส้ caramel / lemon curd







เมื่อเช้าลองชิม...กัดดู อร่อยงั่มๆๆ แต่ไม่กล้ากินเยอะอ่ะกลัวอ้วนๆๆ
ทำให้คนอื่นทานล่ะกัน...แบ่งกันอ้วน






มีความสุข สนุก กับการทำขนมทานเองที่บ้านนะค๊า

Monday, September 26, 2011

Salted caramel macarons

วัสดีจ้าเพื่อนๆชาวบล๊อคทั้งหลาย
วันนี้ไม่ได้มารีวิววิธีการทำตัว macarons เพราะก็คล้ายๆอย่างเดิม
ย้อนไปดูบล๊อคเก่าได้ที่นี่ < basic macaron shells

คราวหน้าถ้ายังไม่เบื่อเจ้าขนมนี่จะมารีวิวสูตรอร่อยๆแปลกๆแหวกแนว
แต่วันนี้จะมารีวิววิธีการทำไส้ขนมอร่อยๆ







วันนี้ซื้อสีผงมาใหม่เลยขอลองสีซะหน่อย....
สีแดง...แต่ไหงผสมออกมาแล้วกลายเป็นสีชมพูหว่า...สงสัยใส่น้อยไป
ไม่เป็นไร...คราวหน้าลองใหม่...
ล๊อตนี้แทบไม่ต้องพักผิวเลย....บีบเสร็จเดินไปอุ่นเตาผ่านไป 20 นาทีเอาส่งเข้าอบ
ช่วงนี้อากาศแห้ง.พักผิวไม่นานก็อบได้ทันที
รุ่นนี้ทำไม่เยอะ...ทำที่สูตร 50 กรัม ไข่ขาวอย่างเก่ามากกกก แบบแยกเอาไว้จนขี้เกียจทำ

ไม่อยากให้เสียของเลยจับทำลองเล่นดูตอนแรกนึกว่าจะเสียซะแล้วเพราะตีไข่มีความรู้สึกว่าเหนียวมากๆ







เข้าเตาอบมีขางอกก็ชื่นใจแล้ว
ทำทุกครั้งก็ยังต้องมีลุ้นทุกครั้ง 5555








วันนี้จะมารีวิวการทำไส้คาราเมลพอเป็นพิธีเอาไว้ทำทานเองกันในครัวเรือน
เราชอบไส้คาราเมลมากๆเพราะไม่ได้หวานเจี๊ยบแต่จะออกมันๆขมๆหน่อยๆ
ก็เลยอยากรีวิวเผื่อเพื่อนๆชาวบล๊อคอยากลองเอาไปทำทานเองที่บ้านดู
ช่วงนี้ซิดนีย์อากาศดีมากๆเพราะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
ดอกไม้ต้นไม้สีสวยๆออกดอกบานกันสะพรั่ง
แต่เราไม่ชอบฤดูใบไม้ผลิเท่าไหร่.....ไม่ใช้ไม่ชอบดอกไม้หรือใบไม้
แต่พอถึงฤดูนี้...เราจะเป็น hay fever แบบเต็มพิกัด
ทั้งยากิน ยาฉีด ยาพ่น กระหน่ำกันเข้าไป จัดเต็ม
บางทีทั้งวัน...ทำอะไรไม่ได้เลย....ทรมานสุดๆ.....

คุยกันพอเป็นพิธี...เข้าเรื่องขนมดีกว่า


สูตรค่ะของ Baroque Patisserie

SALTED CARAMEL เต็มสูตรของต้นตำหรับ

250 กรัม ครีมสด
350 กรัม น้ำตาลทรายละเอียด
10g Fleur de Sel
(ไม่มี เพราะเกลือชนิดนี้แพงเห็นราคาแล้วไม่กล้าซื้อ 100 กรัมเกือบห้าร้อยบาทไทย...เอาไว้ใจกล้ากว่านี้จะซื้อ 555 ใช้เกลือในบ้านไปก่อน )
350 กรัม เนยจืดนิ่ม







เราทำครึ่งสูตร...เยอะมากกกคราวหน้าจะทำแค่ 1/4 สูตรก็น่าจะพอ
วันนี้ใช้เกลือตัวนี้ค่ะ...รสชาดไม่ได้เค็มมากมายเหมือนเกลือที่ใช้ทำอาหาร
ปกติ เกลือตัวนี้เราชอบเอาไว้ใส่สลัดหรือเอาไว้สำหรับโรยเนื้อย่างสเต๊ก...แต่ เกลือก็คือเกลือ...ชิมๆหน่อยก็ดีเพราะมันก็เค็มแบบเกลือ...5555







วิธีทำ

เอาน้ำตาลทรายใส่หม้อตั้งไฟ่อ่อนแล้วก็รอจนน้ำตาลเริ่มละลาย...
จับตาดูน้ำตาลเอาไว้ด้วยค่ะเดี๋ยวไหม้....
สีจะเริ่มเป็นสีทองๆคนบ้างเป็นระยะเพื่อน้ำตาลจะได้สีที่เสมอกัน







ระหว่างนี้ก็หาหม้อมาอีกใบนึงเอาครีมใส่ตั้งไฟแค่พอเดือดปุดๆรอบๆขอบหม้อไม่ต้องรอถึงเดืิอดพล่านก็ปิดไฟได้เลย








พอน้ำตาลทรายเริ่มละลายเป็นสีเหลืองทองยกออกจากเตา







ก็เอาครีมที่ร้อนๆเทใส่หม้อน้ำตาลแล้วก็เอาตะกร้อมือคนไปด้วย
มันจะฟู่ๆๆเลยต้องระวังมากๆค่ะ







คนไปเรื่อยจนเข้ากัน
คนเป็นระยะจนอุณหภูมิลดลงพอเอามือแตะๆดูพออุ่นๆไม่ร้อนมาก ประมาณ 40 องศา







ก็ทะยอยเอาเนยที่นิ่มแล้วใส่ลงไปทีล่ะช้อนแล้วก็คนให้เข้ากัน
ก่อนจะใส่เนยต่อต้องตีให้เข้ากันดีก่อน







ทะยอยใส่เนยจนหมดแล้วเทใส่ภาชนะเอาพลาสติกคลุมแล้วเอาเข้าตู้เย็นให้เซทตัว 20-30 นาที








หลังจากครบกำหนดเอาออกมาใช้ hand mixer ตีจนขึ้นฟูสีจะอ่อนลง







เสร็จก็บีบเลยจ้า







ประกบคู่เอาเข้าตู้เย็น 24 ชั่วโมงก็ทานได้







เราเอาออกมาถ่ายรูปเมื่อเช้า...กินไปสองชิ้น 55







เอาใส่กล่องไปฝากเจ้านาย...หลากสีหลากรสแบ่งกันอ้วน







กล่องนี้ฝากเพื่อนๆชาวบล๊อคทุกคนค่ะ
มีความสุขกับทำขนมทานเองที่บ้านน๊า